ดิฉันใช้บริการของค่ายดีแทค มาประมาณ 10 กว่าปีได้ตั้งแต่ ตอนยังเป็นพนักงานบริษัท
จนตอนนี้เปิดบริษัทเอง ก็ยังใช้บริการดีแทค ทั้งๆที่บางครั้งโทรติดบ้างไม่ติดบ้าง
เน็ตก็ช้า แต่เพราะไม่อยากยุ่งยากและชื่นชอบเทเลนอร์เป็นพิเศษ ด้วยว่าเคยไปทำงานที่ประเทศสวีเดน
แล้วรู้สึกประทับใจกับเทเลนอร์ เพราะมีโอกาสได้ไปรู้จักกับเพื่อนที่นอร์เวย์ ที่ทำงานเป็นระดับหัวหน้าบของเทเลนอร์
ที่มักจะแชร์เรื่องความสนุกกับการทำงานกับเทเลนอร์ และเล่าถึงความใส่ใจลูกค้าของบริษัทนี้
แต่มาวันนี้ จะเป็นวันสุดท้ายที่จะใช้ค่ายดีแทค
ก็ขอเอาเครือข่ายบอกเล่าความย่ำแย่ของการบริการของดีแทค
เริ่มจาก การจ่ายค่าบริการที่ค่อนข้างล่าช้า เวลาไปจ่ายในนามบริษัท มักีปัญหาตามมาให้แก้
ยกตัวอย่างเช่น พนักงานบัญชีของบริษัทดิฉัน ทำหนังสือหัก. ณ ที่จ่ายไปให้ก็บอกว่ายอดผิดให้แก้
โดยที่พนักงานของดิฉันก็มั่นใจว่าทำถูกแล้ว. พอเถียงกันจนทางพนักงานของดิฉันยอมแก้ให้
ก็กลับกลายเป็นว่าตอนบิลที่ดีแทคส่งกลับมาจากสำนักงานใหญ่(ทางไปรษณีย์) เป็นยอดที่ทางพนักงานดิฉันทำไปให้ตอนแรก
ทำให้ทางเราต้องแก้แล้วนำไปส่งที่ดีแทคอีกครั้ง โดยที่คนที่มารุมกันเถียงๆเรื่องยอดตอนนั้น ไม่มีใครโผล่หน้ามารับสักคน
เรื่องนี้ดิฉันเห็นว่าไม่เป็นไรเลยปล่อยให้ผ่านไป
ส่วนเรื่องที่ดิฉันทนไม่ได้คงเป็นเรื่องที่เจอมาเมื่อวาน เนื่องจากดิฉันและพนักงานบัญชีไปชำระค่าบริการที่ดีแทคสาขาบิ๊กซีแจ้งวัฒนะ
ปากเกร็ด เราไปเพื่อชำระค่าบริการแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ การบริการที่ตั้งแต่กิดมาสามสิบปี อยู่มาหลายประเทศในโลก
พบคนมาทุกระดับชั้น ไม่เคยเจอใครที่มีกริยาต่ำๆเช่นนี้มาก่อน(ขออภัยที่พูดไม่เพราะนะคะ เพราะนี่คงเป็นคำอธิบายถึงพนักงานคนนี้ๆด้ดีที่สุด)
คือพนักงานคนนี้(นายพลอยปภัส). ได้มีการถกเถียงกับพนักงานของดิฉันเล็กน้อยเกี่ยวกับการออกหนังสือหัก ณ ที่จ่ายที่เราทำมาผิดคะ
เนื่องจากเราได้เปลี่ยนเป็นไตรเน็ต เราก็เลยต้องออกหนังสือดังกล่าวในนามไตรเน็ต
ซึ่งเราก็เข้าใจคะ แต่การแสดงออกของพนักงานแย่มาก มีการพูดโดยใช้น้ำเสียงที่ตะคอก แสดงว่ารำคาญที่พนักงานของดิฉันสอบถามข้อมูล
(เพื่อจะได้จ่ายเงินให้กับดีแทคได้อย่างถูกต้อง). และดิฉันซึ่งยืนอยู่เฉยๆทนไม่ได้จึงได้เอ่ยปากออกมาว่า
คุณคะ พนักงานของดิฉันพูดคะ กับคุณทุกคำ คุณเป็นพนักงานบริการแท้ๆน่าจะมีService Mind บ้างนะคะ
ไม่ใช่พูดแบบนี้ เท่านี้แหละคะ กระเทยคนนั้นก็ลุกขึ้นออกมาเพื่อที่จะทำร้ายดิฉันกับพนักงาน
แต่ก็มีคนของดีแทคมาดึงไว้ แต่เค้ายังด่าเราไม่หยุด แถมยังท้าให้เราเปลี่ยนเครือข่าย ซึ่งพนักงานของดิฉันยังคงโต้เถียงกับกระเทยคนนั้น
แต่ดิฉันได้แต่เฉยคะ เพราะรู้ว่าคนระดับแบบนี้พูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์( ดิฉันพูดถึงระดับจิตใจนะคะ ไม่ใช่การศึกษา)
ดิฉันดึงพนักงานของดิฉันออกมาคะ และโทรไปแจ้งที่คอลเซ็นเตอร์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ซึ่งมีคนโทรมาชี้แจงว่าพนักงานหน้าเคาเตอร์นั้น เป็นคนที่Dealer ของดีแทคหามาคะ ไม่ใช่พนักงานของเค้าโดยตรง
นี่หรือคะ คือคำตอบของดีแทค ที่ตอบลูกค้า ที่จะโดนทำร้ายร่างกายขณะที่จะนำเงินไปจ่ายให้คุณ หมื่นกว่าบาท
และล่าสุดเมื่อเช้าดิฉันได้ให้พนักงานโทรไปติดต่อเพื่อขอยอดที่ต้องชำระทั้งหมด ทางพนักงานของดีแทคแจ้งว่าบริษัทของดิฉันมียอดค้างชำระ
อีก 1 ยอดที่สะสมมาคือ 100. บาท ซึ่งจริงๆมันคือยอดที่ทางเราชำระไปแล้วโดยใช้บัตรกำนัลที่ทางดีแทคให้มา งง.มากคะ
ดีแทคนี่สุดยอดจริงๆ เงินแค่ 100 บาทดิฉันจ่ายได้คะ แต่เสียความรู้สึกที่เราจ่ายแล้วโดยใช้บัตรกำนัลแต่กลายเป็นเราติดหนี้คุณซะอย่างนั้น
ถ้าใช้ไม่ได้ก็น่าจะบอกเราตั้งแต่แรก จะได้ไม่ใช้คะ
จบแล้วคะ ลาก่อนกับดีแทค และดิฉันจะจดจำเหตุการณ์นี้ไว้คะ หากมีโอกาสที่ดิฉันจะได้ไปเยี่ยมคณะผู้บริหารเทเลนอร์ที่นอร์เวย์อีกสักครั้ง
ดิฉันคงไม่ลืมแน่ๆที่จะเล่าถึงความประทับใจในเหตุการณ์ครั้งนี้ให้ฟัง
พอกันทีกับค่ายนี้Dแตก
จนตอนนี้เปิดบริษัทเอง ก็ยังใช้บริการดีแทค ทั้งๆที่บางครั้งโทรติดบ้างไม่ติดบ้าง
เน็ตก็ช้า แต่เพราะไม่อยากยุ่งยากและชื่นชอบเทเลนอร์เป็นพิเศษ ด้วยว่าเคยไปทำงานที่ประเทศสวีเดน
แล้วรู้สึกประทับใจกับเทเลนอร์ เพราะมีโอกาสได้ไปรู้จักกับเพื่อนที่นอร์เวย์ ที่ทำงานเป็นระดับหัวหน้าบของเทเลนอร์
ที่มักจะแชร์เรื่องความสนุกกับการทำงานกับเทเลนอร์ และเล่าถึงความใส่ใจลูกค้าของบริษัทนี้
แต่มาวันนี้ จะเป็นวันสุดท้ายที่จะใช้ค่ายดีแทค
ก็ขอเอาเครือข่ายบอกเล่าความย่ำแย่ของการบริการของดีแทค
เริ่มจาก การจ่ายค่าบริการที่ค่อนข้างล่าช้า เวลาไปจ่ายในนามบริษัท มักีปัญหาตามมาให้แก้
ยกตัวอย่างเช่น พนักงานบัญชีของบริษัทดิฉัน ทำหนังสือหัก. ณ ที่จ่ายไปให้ก็บอกว่ายอดผิดให้แก้
โดยที่พนักงานของดิฉันก็มั่นใจว่าทำถูกแล้ว. พอเถียงกันจนทางพนักงานของดิฉันยอมแก้ให้
ก็กลับกลายเป็นว่าตอนบิลที่ดีแทคส่งกลับมาจากสำนักงานใหญ่(ทางไปรษณีย์) เป็นยอดที่ทางพนักงานดิฉันทำไปให้ตอนแรก
ทำให้ทางเราต้องแก้แล้วนำไปส่งที่ดีแทคอีกครั้ง โดยที่คนที่มารุมกันเถียงๆเรื่องยอดตอนนั้น ไม่มีใครโผล่หน้ามารับสักคน
เรื่องนี้ดิฉันเห็นว่าไม่เป็นไรเลยปล่อยให้ผ่านไป
ส่วนเรื่องที่ดิฉันทนไม่ได้คงเป็นเรื่องที่เจอมาเมื่อวาน เนื่องจากดิฉันและพนักงานบัญชีไปชำระค่าบริการที่ดีแทคสาขาบิ๊กซีแจ้งวัฒนะ
ปากเกร็ด เราไปเพื่อชำระค่าบริการแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ การบริการที่ตั้งแต่กิดมาสามสิบปี อยู่มาหลายประเทศในโลก
พบคนมาทุกระดับชั้น ไม่เคยเจอใครที่มีกริยาต่ำๆเช่นนี้มาก่อน(ขออภัยที่พูดไม่เพราะนะคะ เพราะนี่คงเป็นคำอธิบายถึงพนักงานคนนี้ๆด้ดีที่สุด)
คือพนักงานคนนี้(นายพลอยปภัส). ได้มีการถกเถียงกับพนักงานของดิฉันเล็กน้อยเกี่ยวกับการออกหนังสือหัก ณ ที่จ่ายที่เราทำมาผิดคะ
เนื่องจากเราได้เปลี่ยนเป็นไตรเน็ต เราก็เลยต้องออกหนังสือดังกล่าวในนามไตรเน็ต
ซึ่งเราก็เข้าใจคะ แต่การแสดงออกของพนักงานแย่มาก มีการพูดโดยใช้น้ำเสียงที่ตะคอก แสดงว่ารำคาญที่พนักงานของดิฉันสอบถามข้อมูล
(เพื่อจะได้จ่ายเงินให้กับดีแทคได้อย่างถูกต้อง). และดิฉันซึ่งยืนอยู่เฉยๆทนไม่ได้จึงได้เอ่ยปากออกมาว่า
คุณคะ พนักงานของดิฉันพูดคะ กับคุณทุกคำ คุณเป็นพนักงานบริการแท้ๆน่าจะมีService Mind บ้างนะคะ
ไม่ใช่พูดแบบนี้ เท่านี้แหละคะ กระเทยคนนั้นก็ลุกขึ้นออกมาเพื่อที่จะทำร้ายดิฉันกับพนักงาน
แต่ก็มีคนของดีแทคมาดึงไว้ แต่เค้ายังด่าเราไม่หยุด แถมยังท้าให้เราเปลี่ยนเครือข่าย ซึ่งพนักงานของดิฉันยังคงโต้เถียงกับกระเทยคนนั้น
แต่ดิฉันได้แต่เฉยคะ เพราะรู้ว่าคนระดับแบบนี้พูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์( ดิฉันพูดถึงระดับจิตใจนะคะ ไม่ใช่การศึกษา)
ดิฉันดึงพนักงานของดิฉันออกมาคะ และโทรไปแจ้งที่คอลเซ็นเตอร์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ซึ่งมีคนโทรมาชี้แจงว่าพนักงานหน้าเคาเตอร์นั้น เป็นคนที่Dealer ของดีแทคหามาคะ ไม่ใช่พนักงานของเค้าโดยตรง
นี่หรือคะ คือคำตอบของดีแทค ที่ตอบลูกค้า ที่จะโดนทำร้ายร่างกายขณะที่จะนำเงินไปจ่ายให้คุณ หมื่นกว่าบาท
และล่าสุดเมื่อเช้าดิฉันได้ให้พนักงานโทรไปติดต่อเพื่อขอยอดที่ต้องชำระทั้งหมด ทางพนักงานของดีแทคแจ้งว่าบริษัทของดิฉันมียอดค้างชำระ
อีก 1 ยอดที่สะสมมาคือ 100. บาท ซึ่งจริงๆมันคือยอดที่ทางเราชำระไปแล้วโดยใช้บัตรกำนัลที่ทางดีแทคให้มา งง.มากคะ
ดีแทคนี่สุดยอดจริงๆ เงินแค่ 100 บาทดิฉันจ่ายได้คะ แต่เสียความรู้สึกที่เราจ่ายแล้วโดยใช้บัตรกำนัลแต่กลายเป็นเราติดหนี้คุณซะอย่างนั้น
ถ้าใช้ไม่ได้ก็น่าจะบอกเราตั้งแต่แรก จะได้ไม่ใช้คะ
จบแล้วคะ ลาก่อนกับดีแทค และดิฉันจะจดจำเหตุการณ์นี้ไว้คะ หากมีโอกาสที่ดิฉันจะได้ไปเยี่ยมคณะผู้บริหารเทเลนอร์ที่นอร์เวย์อีกสักครั้ง
ดิฉันคงไม่ลืมแน่ๆที่จะเล่าถึงความประทับใจในเหตุการณ์ครั้งนี้ให้ฟัง